Translate

วันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2557

เตรียมสอบ TOEFL / IELTS


โทเฟิล หรือ โทเฟล (TOEFL) จะวัดผู้สอบด้วยกันทั้งหมด 4 ทักษะ คือ การอ่าน การฟัง การพูด และการเขียน และ แน่นอน ว่า คะแนนของ โทเฟิล หรือ โทเฟล (TOEFL) จะมีผลอย่างมาก ในการเลือกมหาวิทยาลัย ดังนั้น หากคะแนน โทเฟิล หรือ โทเฟล (TOEFL) สูง โอกาสที่จะได้รับเลือกในมหาวิทยาลัยชั้นนำก็สูง หากคะแนนโทเฟิล หรือ โทเฟล (TOEFL) ได้น้อย โอกาสที่จะได้รับเลือกในมหาวิทยาลัยชั้นนำ ก็จะลดหลั่นลงมาตามลำดับ
ดังนั้น เมื่อทราบว่า คะแนนการสอบ โทเฟิล หรือ โทเฟล (TOEFL) มีผลต่อการเลือกคณะ และมหาวิทยาลัย และคุณยังไม่มั่นใจ สถาบัน EngWISE สามารถช่วยแก้ปัญหาให้คุณได้ โดยที่จะสอนปูพื้นฐาน และครอบคลุมเนื้อหาการสอบของ โทเฟิล หรือ โทเฟล (TOEFL) และยังรับรองผลคะแนน โทเฟิล หรือ โทเฟล (TOEFL)   ที่ 80 คะแนน อีกด้วย!!! สุดท้าย เวบไซท์หลักของ โทเฟิล หรือ โทเฟล (TOEFL) คือ www.ets.org/toefl

วันศุกร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2557

สัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ เตรียมตัวสู่อาเซียน

สัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ
  
     ปัจจุบันในสังคมไทย ภาษาอังกฤษกลายเป็นภาษาที่สองที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร การสมัครงานก็เช่นเดียวกัน ถ้าคุณมีความรู้ภาษาอังกฤษที่ดี ก็จะได้รับพิจารณาก่อนเป็นอันดับแรกจากนายจ้าง เพื่อให้คุณเข้าใจถึงกลยุทธ์ของการสมัครงานในขั้นตอนต่างๆ และปัญหาต่างๆที่ผู้สมัครงานมักล้มเหลวในการสมัครงาน เพื่อให้ผู้สมัครเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับคำแนะนำ ตลอดจนเทคนิคต่างๆที่ใช้ในการสมัครงานให้ได้ผลที่ดีเยี่ยม เริ่มตั้งแต่การเขียนประวัติส่วนตัว (Resume) ตลอดจนสัมภาษณ์งาน (Interview) โดยผู้เรียนจะได้เรียนรู้ทักษะ และฝึกฝน
 ดังนั้นผู้เรียนสามารถนำทักษะเหล่านี้ไปปรับใช้กับการสมัครงานจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในระยะเวลาอันรวดเร็ว!

      ด้วยการเรียนแบบคอร์สระยะสั้น 20 ชั่วโมงด้วยราคาสบายๆกระเป๋า 


ติดต่อสอบถามได้ที่ 045-265-577 หรือ 083-744-4155

เรียนสนทนาภาษาอังกฤษกับอาจารย์เจ้าของภาษา อุบลราชธานี

พร้อมเปิดแล้วสำหรับใครที่สนใจจะเรียนคอร์สสนทนาภาษาอังกฤษ
พร้อมเปิดกลุ่มแล้ว กลุ่มเล็กเรียนสนุก เป็นกันเอง
เปิดรับลงทะเบียนตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 29 มกราคม นี้นะค่ะ
เรียนทุกวัน พุธและพฤหัสบดี เวลา 18.00-20.00 น.

พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ มาสมัครเรียนกับ TEST นะค่ะ ^___^



สอบถามเพิ่มเติม 045-265-577 หรือ 083-744-4155

วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557

ศัพท์กฏหมายภาษาอังกฤษน่ารู้

A legal binding = ข้อตกลงที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย
Unilateral contract = สัญญาฝ่ายเดียว
Bilateral/Mutual/Reciprocal contract = สัญญาต่างตอบแทน
Multilateral = สัญญาที่มีคู่สัญญาหลายฝ่าย
Non-reciprocal contract = สัญญาที่ไม่ต่างตอบแทน
Void(able) contract = สัญญาที่เป็นโมฆียะ
Offeree = ผู้ทำคำสนอง
An offer and an acceptance are met consensually = ให้ความยินยอม
A minor (infant) person = ผู้เยาว์
Empowered = มีสิทธิ
Make an avoidance = ขอกลับ
Ratification = การให้สัตยาบัน
Inoperable from its inception = ไม่มีผลย้อนหลังโดยใช้หลักลาภมิควรได้
Major/sui juris personperson = ผู้บรรลุนิติภาวะ
Principal = ตัวการ
Undue enrichment = ตามหลักลาภมิควรได้
Upon the request of the interested person = ตามคำเรียกร้องของบุคคลผู้มีส่วนได้เสีย
Ascendant = บุพการี
Public prosecutor = พนักงานอัยการ
Is called = ตกเป็น….
Custody = อยู่ในความดูแล
Contrary = ขัดต่อกฎหมาย
Embezzlement = การยักยอกทรัพย์
Civilly as libel/written defamation = ความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการเขียน
Infringement of copyright/patent/trademark = การละเมิดลิขสิทธิ์
Neither party is entitled to bring the case to the court to obtain a performance = คู่สัญญาทั้งสองไม่สามารถฟ้องร้องบังคับคดี
Call for damages/ indemnity = เรียกร้องสินไหมทดแทน
Usurious = การห้ามเรียกร้องดอกเบี้ยเกินอัตรา
Stipulate = กำหนด บัญญัติ ระบุเอาไว้
Earnest = มัดจำ
Default = ผิดสัญญา
Initiate/commence/establish = มีผลบังคับ
Death penalty = โทษประหารชีวิต
Obligation = หนี้




Acquired a right to forfeit or call for the penalty = คู่สัญญาบังคับกันได้เองตามที่ได้ตกลงกันไว้
Misappropriation/defalcation/misapplication = ไม่สามารถคืนเงินให้แก่เจ้าของได้เมื่อถึงเวลากำหนด
Loan for consumption = ยืมใช้สิ้นเปลือง
Loan for use = ยืมใช้คงรูป
Same kind/fungible thing = ใช้แทนกันได้
Remuneration = บำเหน็จ/สินจ้าง
Gratuitous/naked deposit = สัญญาฝากทรัพย์แบบไม่มีบำเหน็จ
Delict/tortious actions = ละเมิด
Several liability = รับผิดร่วมกัน
Personally liable = รับผิดส่วนตัว
Engages = ว่าจ้าง
attorney-in-fact/proxy = ตัวแทน
Implied authority = ปริยาย
Power of attorney = หนังสือมอบอำนาจ
Disclosed principal = ตัวการเปิดเผยชื่อ
Undisclosed principal = ตัวการไม่เปิดเผยชื่อ
Apparent/ostensible agent = ตัวแทนเชิด
Estopped for liability = ถูกปิดปากในกฎหมายให้รับผิด
Bona fide buyer = บุคคลที่ 3 ที่ทำการโดยสุจริต
advancement = เงินทดลอง
Is vested with lien = มีสิทธิยึดหน่วง
vendee = ผู้ซื้อ
A sale with the right of redemption = การขายฝาก
A titleholder = ผู้ถือกรรมสิทธิ์
The pecuniary clause/monetary clause = ต้องมีข้อความระบุจำนวนเงินที่ซื้อขายกัน
Realty = ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์
Personalty = สังหาริมทรัพย์
The passage of title = การโอนกรรมสิทธิ์
Bear the loss = รับผิดในความเสียหาย
To deliver the conformable property = ส่งมอบทรัพย์สินตามที่ได้กำหนดไว้
Rescind the sales contract = บอกยกเลิกสัญญาขาย
Exercise the right of retention/lien = ใช้สิทธิยึดหน่วง
Tenders = ประมูล
Derive = ได้รับ
Donee = ผู้รับการให้โดยเสน่าหา
Surety = ผู้ค้ำประกัน
Suretyship = การค้ำประกัน
Principal debtor = ลูกหนี้ประธาน
Co-sureties/joint sureties = ผู้ค้ำประกันร่วม
Acquired a right of subrogation = มีสิทธิเข้ารับช่วงสิทธิ
Recover = เรียก
Principal = เงินต้น
Defense of a prescription = ข้อต่อสู้เรื่องอายุความ
Exonerated = พ้นจากความรับผิด
Extinguished = จะระงับ
Set-off = หักกลบลบหนี้
Merged = หนี้เกลื่อนกลืน
Extends the time for performance = ขยายระยะเวลาชำระหนี้
Without the assent = โดยปราศจากคำยินยอม
Mortgage = การจำนอง
Due payment = ผิดนัดชำระหนี้
Mortgaged property/collateral = หลักทรัพย์ประกัน
Foreclosure = เอาทรัพย์จำนองหลุด
Discharged = ระงับ
Pledgor = ผู้จำนำ
Dissolved/wind up = เลิก
Lapse/Intentionally/negligently = จงใจ
Liquidation = การสะสางบัญชีทรัพย์สินของห้าง
Liquidator = ผู้ชำระบัญชี
Undertaking/entity = หน่วยงานเอกชน
At the first stage = ไม่เสมอไป
Amalgamation = การควบห้าง
Statutory meeting = ประชุมตั้งบริษัท
Ratify the promoter’s contract = การให้สัตยานบันของผู้เริ่มก่อการ
Court decree = คำสั่งศาล
Defunct company = บริษัทร้าง
Quorum = องค์ประชุม
Decree = คำสั่งทีไม่มีข้อพิพาท
Guaranteed by an aval = การรับรองโดยอาวัล
Lease at will/open end lease = การเช่าไม่มีกำหนดระยะเวลา
Commencing = มีผลเป็น
Contemplate = ใคร่ครวญ
Contempt = หมิ่นประมาท
Plaintiff/plaintive = โจกษ์
Accused = จำเลยคดีอาญา
Double jeopardy = ฟ้องซ้ำ
Prosecute/charge litigate/indict = ฟ้อง
Body corporate/juristic person = นิติบุคคล
Extradict = ส่งผู้รายข้ามแดน
Dispensable = ทิ้ง
Counter charge/(make a) counter claim = ฟ้องแย้ง
File a motion to = ยื่นญัตติ
Appelate court = ศาลอุทธรณ์
Solicitor = หัวหน้าทนาย
Barrister = ตั๋วทนายที่มีใบอนุญาต
Verdict = คำพิพากษาของคณะลูกขุน
Aforesaid = ดังกล่าวมาก่อนหน้านี้
Adulteration = ปลอมเป็น
Confine = หน่วงเหนี่ยว
Detain = กักขัง
Perjury = ความผิดฐานแจ้งความเท็จ
Falsi/crimen = ความผิดฐานหลอกลวง

Misdemeanor/petty offence/offense = ลหุโทษ

ขอบคุณข้อมูลจาก ขอบคุณข้อมูลของ ว่าที่ร้อยตรี ณัฐพล พัวประเสริฐ เจ้าหน้าที่ล่าม 
และเว็บไซด์ ครูบ้านนอกดอทคอม

วันพุธที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2557

เรื่องง่ายๆ another กับ other ใช้ต่างกันอย่างไร

another กับ other ใช้ต่างกันอย่างไร มาดูกันเลยค่ะ

another ตามด้วยนามเอกพจน์ หมายถึง
อีกอันหนึ่งที่ไม่ชี้เฉพาะเจาะจงหรืออันไหนก็ได้โดยที่อาจจะมีหลายตัวเลือก
May I have another piece of gum?
ขอหมากฝรั่งอีกชิ้นนึงหน่อยได้มั้ย
another สามารถตามด้วยนามพหูพจน์ได้เหมือนกัน เช่น
I need to prepare for another three months.
ฉันต้องเตรียมตัวอีกสามเดือน

the other ตามด้วยนามเอกพจน์ หมายถึง
อีกอันหนึ่งโดยที่เดิมทีมีแค่สองอัน หรือพูดง่ายๆว่าอันที่เหลืออยู่
ดังนั้นทั้งคนพูดและคนฟังรู้กันว่าพูดถึงอันไหน เช่นสมมุติว่ามีส้มสองลูก
และเพื่อนกินลูกหนึ่งเข้าไปแล้วจึงเหลือหนึ่งลูกก็สามารถพูดได้ว่า
Would do you mind if I ate the other orange?
ถ้าฉันกินลูกที่เหลือคุณจะรังเกียจมั้ย

the other ตามด้วยนามพหูพจน์ หมายถึง
อันอื่นๆที่ชี้เฉพาะเจาะจงหรืออันอื่นๆที่เหลืออยู่ที่ทั้งคนพูด
และคนฟังรู้กันว่าพูดถึงอันไหนบ้าง  เช่น
The other kids are waiting.
เด็กคนอื่นๆกำลังรออยู่
แต่ถ้าตักคำว่า The ออกไปเป็น Other kids are waiting.
ก็แปลเหมือนกันว่า เด็กคนอื่นๆกำลังรออยู่
เพียงแต่ว่าไม่ได้ชี้เฉพาะว่าพูดถึงเด็กคนไหนบ้าง

วันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2557

TOEIC 650+

เตรียมสอบ TOEIC 


สอนโดยอาจารย์ที่จบตรงทางภาษา 
มีวุฒิปริญญาไม่ต่ำกว่า ปริญญาโท ทางภาษา จบจากต่างประเทศ
ชำนาญการทางภาษาเป็นพิเศษ ทั้งครูไทยและครูต่างชาติ 
และยังมีผลคะแนนสอบ TOEIC การันตีด้วยคะแนน 975 (จากคะแนนเต็ม 990 คะแนน) 
เรียนทุกวัน จันทร์-ศุกร์ ราคาพิเศษเท่านั้น 
จะเรียนแบบกลุ่มหรือแบบส่วนตัว ก็มีให้เลือกเรียนได้ตามความต้องการของผู้เรียน 
สอบไม่ผ่านได้สิทธิเรียนซ้ำฟรีไม่จำกัดจนผ่านตลอด 1 ปี เต็ม 
สอบถามข้อมูลเพิมเติมได้ที่  045-265-577 สถาบันภาษาอาภาพชร อุบลราชธานี

เกร็ดน่ารู้ บอกเวลาเป็นภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว

เกร็ดน่ารู้ บอกเวลาเป็นภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว
การบอกเวลาเป็นภาษาอังกฤษนั้น จะมี 2 แบบ 
คือ แบบBritish EnglishและแบบAmerican English 
ซึ่ง 2 แบบนี้จะมีวิธีการเรียกเวลาที่แตกต่างกัน 

1. แบบBritish English?

ระบบเวลาจะเป็นแบบ 12 ชั่วโมง (12 hour clock)?โดยจะใช้เลข 1 ถึง 12 ตามด้วย a.m. และ p.m.

- a.m.?=?ante meridiem?=?หลังเที่ยงคืน ถึง ก่อนเที่ยงวัน?(00.01 a.m. ? 11.59 a.m.)
- p.m.?=?post meridiem =?หลังเที่ยงวัน ถึง ก่อนเที่ยงคืน?(12.00 p.m. ? 11.59 p.m.)
เวลาเต็มชั่วโมง?: ให้เติมคำว่า ?o?clock? ท้ายเวลา อาจเติมคำบอกเวลาหรือพูด ?เอ-เอ็ม? และ ?พี-เอ็ม? เพื่อให้สามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้น?สำหรับเวลาเที่ยงวันให้ใช้?noon?และเที่ยงคืนให้ใช้?midnight?
- 10.00 a.m.?=?ten?o?clock?in the morning / ten a.m.?(เท็น-เอ-เอ็ม)
- 04.00 p.m.?=?four?o?clock?in the afternoon / four p.m.?(โฟร์-พี-เอ็ม)
เวลาที่ผ่านชั่วโมงมาแล้ว แต่ไม่เกิน 30 นาที?? ให้บอกนาทีนำหน้าตามด้วย ?past? และชั่วโมงที่ผ่านมา เช่น
- 09.25 a.m.?=?twenty-five?past?nine
- 05.12 p.m.?=?twelve?past?five
เวลาที่ผ่านชั่วโมง และเกิน 30 นาทีมาแล้ว?? ให้บอกนาทีที่เหลือก่อนจะถึงชั่วโมงถัดไป ตามด้วย ?to? ?และชั่วโมงถัดไปเช่น
- 07.50 a.m.?=?ten?to?eight
- 08.40 p.m.?=?twenty?to?nine
หากนาฬิกาเป็น?เวลา 15 นาทีหรือ 45 นาที ให้ใช้คำว่า?a quarter?และหากเป็น 30 นาที ให้ใช้?half?เช่น
- 06.15 a.m.?=?a?quarter?past six
- 06.30 a.m.?=?half?past six
- 06.45 a.m.?=?a?quarter?to seven

2. แบบAmerican English
ใช้ระบบเวลาแบบ 24 ชั่วโมง (24-hour clock) ใช้ตั้งแต่เลข 0 ไปจนถึง 24 เลย ซึ่งจะไม่มี a.m. และ p.m.?วิธีพูดคือ จะบอกเลขชั่วโมงก่อนตามด้วยเลขนาที (แบบนี้ง่ายดีนะ ^^) มักจะใช้ในทางทหารหรืองานที่เป็นทางการหน่อยเพื่อไม่ให้สับสน เช่น
- 20.15?=?twenty fifteen
- 08.05*?=?eight O five?(เอท-โอ-ไฟฟ์) ?*ใช้เสียง O (โอ) แทนเลขศูนย์
- 17.50?=?seventeen fifty
เทคนิคเล็กน้อย?: การบอกเวลาสามารถเติมคำประมาณได้ด้วยนะ?อย่าง?about,?around?หรือ?nearly?เช่น
- 08.02?=It?s?about?eight o?clock
- 09.27?= It?s?nearly?half past nine